ผลไม้ที่คนท้องควรกิน มีอะไรบ้าง ผลไม้ชนิดไหนควรกินปริมาณเท่าไหร่ ผลไม้ที่คนท้องควรกินแต่ละชนิดนั้น
มีประโยชน์กับแม่ท้องและลูกในครรภ์อย่างไร ผลไม้ที่คนท้องควรกิน มีอะไรบ้างไปติดตามกันเลย
ผลไม้ที่คนท้องควรกิน
ผลไม้ที่คนท้องควรกิน มีมากมายหลายชนิด เพราะเรื่องโภชนาการระหว่างตั้งครรภ์ เป็นเรื่องที่สำคัญมากต่อสุขภาพ
ของทั้งแม่ท้องและลูกในครรภ์ ซึ่งผลไม้หลายชนิดนั้น ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์หลายอย่าง และให้สารอาหารที่สำคัญกับ
ตัวคุณแม่และลูกน้อยในท้องมากมาย เรามาดูกันว่า ผลไม้ที่คนท้องควรกิน มีอะไรบ้าง
1. อินทผลัม
อินทผลัม เป็นผลไม้ที่หาทานได้ไม่ยาก มีทั้งชนิดอบแห้ง หรืออินทผลัมแบบผลไม้สด
ให้เลือกทานตามใจชอบ และอินทผลัมนั้น เป็นผลไม้ที่ไม่มีคอเลสเตอรอล
และอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

– อินทผลัม เป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์ ซึ่งจะช่วยลดอาการท้องผูกในระหว่างตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดี
– การรับประทานอินทผลัมจะช่วยสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมดลูก
ช่วยให้การบีบตัวของมดลูกในช่วงการคลอดได้ดี
– ช่วยลดอาการตกเลือดหลังจากคลอดลูก
– สำหรับคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่ การรับประทานอินทผลัมจะช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าได้
– อินทผลัม ช่วยเพิ่มสารอาหารสำคัญในน้ำนมแม่ ซึ่งสารอาหารที่ได้จากอินทผาลัมเมื่อลูกทานนมแม่จะช่วยใน
เรื่องภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้ลูกน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรง
คนท้องควรทานอินทผลัมวันละกี่ผล
ด้วยความที่อินทผลัม เป็นผลไม้รสหวาน ที่มีปริมาณน้ำตาลสูง หากรับประทานมากไป อาจส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงได้ ดังนั้นช่วงแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ควรทานแต่พอดี วันละไม่เกิน 3-5 ผลก็พอ
หลังจากนั้น แนะนำให้รับประทานเป็นของว่างเสริมในช่วงใกล้คลอด หรืออาจจะเริ่มตั้งแต่เดือนที่ 8 ของการตั้งครรภ์ก็ได้ สำหรับปริมาณที่ควรรับประทานในช่วงนี้ก็คือประมาณวันละ 6-7 ผล
ถึงแม้อินทผลัมจะมีประโยชน์มากมาย แต่เราก็ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะอาหารทุกชนิดจะให้ประโยชน์เมื่อเรารับประทานในปริมาณที่เหมาะสม หากเรารับประทานในปริมาณที่พอดี รับรองว่าทั้งคุณแม่และลูกน้อยจะมีสุขภาพ
ที่ดีแน่นอน
2. แก้วมังกร
แก้วมังกร เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งกับคุณแม่ท้อง และทารกในครรภ์
ซึ่งสารอาหารในผลไม้อย่างแก้วมังกร ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณแม่ท้องมีสุขภาพครรภ์ที่ดี
แต่ยังช่วยป้องกันลูกในท้อง จากความผิดปกติต่างๆ ได้อีกด้วย

– แก้วมังกร เป็นผลไม้ที่มีปริมาณโฟเลตสูง ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงและป้องกันโรคสมองพิการของทารกในครรภ์ได้
– แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินที่เป็นประโยชน์มากมาย ที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างสมองของลูกน้อยในครรภ์ และช่วยส่งเสริมสุขภาพ การเจริญเติบโต และพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้ดี
– ปริมาณแคลเซียมที่มีอยู่ในแก้วมังกร ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันของคุณแม่ท้องให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของกระดูกทารกในครรภ์อีกด้วย
– แก้วมังกรมีธาตุเหล็ก และวิตามินซีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยเพิ่มระดับฮีโมโกบินของคุณแม่ท้อง เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการเป็นโรคโลหิตจางที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างตั้งครรภ์
– ปริมาณไฟเบอร์ที่มีอยู่ในแก้วมังกร มีส่วนช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างปกติ เสริมสร้างการทำงานของระบบกำจัดของเสียในร่างกายให้ดียิ่งขึ้น ช่วยป้องกันอาการท้องผูกระหว่างตั้งครรภ์ ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ แก้ปัญหาการขับถ่ายต่าง ๆ ให้ดีขึ้น
– แก้วมังกรอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับแม่ท้อง และแก้วมังกร ยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้ด้วย เนื่องจากแก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำ จึงไม่น่าแปลกใจเลย ที่แม่ท้องส่วนใหญ่นิยมทานแก้วมังกรในช่วงตั้งครรภ์
คนท้องควรทานแก้วมังกรวันละกี่ลูก
คุณแม่ท้องควรทานแก้วมังกรแต่พอประมาณ หรือวันละไม่เกิน 1 ลูก ถ้าจะให้ดี ไม่ควรทานผลไม้เดิม ๆ ซ้ำ ๆ
ติดต่อกันหลายวัน แต่ควรทานให้หลากหลาย เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน และได้ประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเต็มที่
3. มะละกอสุก
ในมะละกอสุกนั้น อุดมไปด้วยวิตามินซี สารเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ
วิตามินบีและแคลเซียม ซึ่งมีประโยชน์ต่อแม่ท้องมากมาย

– การทานมะละกอสุกตอนท้อง จะช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ดี แก้ปัญหาท้องผูกระหว่างตั้งครรภ์ได้
– ช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันตอนท้อง
– มะละกอสุก ช่วยบำรุงระบบประสาทและสายตา
– ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
– แถมด้วยการนำมะละกอสุกมาบดให้ละเอียด เพื่อนำมาพอกหน้าบำรุงผิวพรรณของคุณแม่ให้ชุ่มชื่นสดใสได้อีก
ซึ่งคุณแม่สามารถกินมะละกอสุกได้ทุกวัน หรือกินเป็นผลไม้ในมื้อหลังอาหาร แต่ต้องไม่ละเลยเรื่องความสะอาด
โดยเด็ดขาด ยิ่งในช่วงหน้าร้อน การเลือกกินมะละกอสุกให้ปลอดภัย คือ ควรซื้อแล้วนำมาปอกเปลือกทานเองที่บ้าน
จะดีกว่าแบบที่ปอกและหั่นมาแล้ว เพื่อป้องกันเชื้อก่อโรคปนเปื้อนหรือเชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส
แต่ถ้าจำเป็นต้องซื้อมะละกอสุก หรือผลไม้ชนิดอื่นจากร้านค้าตามรถเข็น ควรเลือกซื้อผลไม้จากร้านที่สะอาด
เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับเชื้อโรค และเพื่อความปลอดภัยสำหรับทั้งคุณแม่และลูกน้อยในท้องด้วย
4. แอปเปิ้ล
แอปเปิ้ล เป็นผลไม้ยอดนิยมชนิดหนึ่งของโลก การทานแอปเปิ้ลตอนท้องอย่างน้อยวันละ 1 ลูกเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เรามาดูประโยชน์ของการกินแอปเปิ้ลตอนท้องกัน

– การกินแอปเปิ้ลตอนท้อง สามารถช่วยป้องกันลูกน้อยจากโรคหอบหืดภูมิแพ้ได้ อีกทั้งยังสามารถลดอาการตีบแคบของทางเดินหายใจได้อีกด้วย
– แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยอาหาร ช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยระหว่างตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดี
– แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่มีปริมาณวิตามินซีสูง การกินแอปเปิ้ลตอนท้องจะช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อโรค และอาการติดเชื้อต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับคุณแม่และลูกในท้องได้
– แอปเปิ้ลมีคาร์โบไฮเดรต ช่วยเพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวันที่คุณอ่อนเพลียทั้งจากการทำงานและความเครียด อีกทั้งแอปเปิ้ลยังเป็นผลไม้ที่มีปริมาณแคลอรี่ต่ำ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำหนักตัวหากคุณอยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนัก
– การทานแอปเปิ้ลตอนท้องจะช่วยบำรุงหัวใจ และป้องกันอาการแสบร้อนกลางอกซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในหญิงตั้งครรภ์ การกินแอปเปิ้ลตอนท้องนอกจากจะช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนกลางอกได้แล้ว ยังจะช่วยบำรุงหัวใจได้อีกด้วย
– แอปเปิ้ล เป็นผลไม้ที่มีแคลเซียมสูง ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างให้กระดูกของคุณแม่และลูกในท้องแข็งแรง
– แอปเปิ้ลมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะส่งผลดีให้กับการทำงานของปอด ซึ่งเมื่อปอดแข็งแรง ก็จะช่วยให้ระบบการหายใจของคุณแม่และลูกในท้องทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งปอดที่แข็งแรงยังช่วยให้คลอดง่ายขึ้นอีกด้วย
5. สับปะรด
สับปะรด อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ที่ดีต่อสุขภาพของคุณแม่ท้องและลูกน้อย
ในครรภ์ ประโยชน์ของการทานสับปะรดตอนท้องมีมากมาย

– วิตามิน B1 ในสับปะรด ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและหัวใจ
– วิตามินบี 6 ดีต่อการทำงานของร่างกายหลายส่วน ทั้งยังช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง และในบางกรณีสับปะรด
สามารถช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้
– ทานสับปะรดตอนท้อง จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้ดี
– สารอาหารที่มีในสับปะรด มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตที่เหมาะสม ช่วยบำรุงเส้นผมและดวงตา
ของทารกในครรภ์ได้
– แมงกานีส ช่วยบำรุงกระดูกของทั้งคุณแม่และลูกในท้อง
ข้อควรระวัง
ตอนท้องสามารถกินสับปะรดได้ แต่ต้องไม่มากเสียจนเกินไป เพราะไม่ว่าอาหารชนิดไหน ถ้ากินมากเกินไป ก็ล้วนแต่จะให้โทษมากกว่าที่จะเป็นประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งแม้ว่าคนท้องสามารถทานสับปะรดได้ แต่อย่างไรก็ดี แคลอรี่ส่วนใหญ่
ของสับปะรดมาจากน้ำตาล ทางที่ดีที่สุดคือรับประทานแต่น้อย โดยเฉพาะหากคุณแม่มีอาการเบาหวานขณะตั้งครรภ์
ที่มา: https://th.theasianparent.com